เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน
- Ultraformer คืออะไร?
- Ultraformer มีหัวยิงกี่แบบ?
- Ultraformer ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
- การทำ Ultraformer เหมาะกับใครบ้าง?
- การทำ Ultraformer ไม่เหมาะกับใครบ้าง?
- ข้อดี-ข้อเสียของการทำ Ultraformer
- การดูแลตัวเองก่อน-หลังการทำ Ultraformer
- Ultraformer VS Ulthera VS Hifu แตกต่างกันอย่างไร?
- Ultraformer สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้หรือไม่?
- เลือกทำ Ultraformer ที่ Ren Clinic ดีกว่ายังไง?
- รีวิวหลังทำ Ultraformer ที่ Ren Clinic
- Q&A คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Ultraformer
Ultraformer ทางเลือก ยกกระชับหน้า ปรับรูปหน้าเรียวเล็ก ไม่ง้อเข็ม ไม่ต้องผ่าตัด
“Ultraformer” เป็นหัตถการยกกระชับผิวที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบันเป็นอย่างมาก เพราะมีคุณสมบัติในการช่วยยกกระชับผิว ลดริ้วรอย ปรับรูปหน้าให้สมส่วน ช่วยให้ผิวมีความอ่อนเยาว์ และสามารถเห็นผลลัพธ์หลังทำได้ทันที โดยที่ไม่ต้องทำการผ่าตัด และไม่ต้องใช้เข็ม ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ ดังนั้น ในบทความนี้ทาง Ren Clinic ก็จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ Ultraformer กันมากขึ้น ว่า Ultraformer คืออะไร มีหัวยิงกี่แบบ ช่วยเรื่องอะไรบ้าง เหมาะกับใคร มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าการทำ Ultraformer เหมาะกับปัญหาผิวของตัวเองหรือไม่ ซึ่งจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง สามารถติดตามกันได้เลย!
1. Ultraformer คืออะไร?
Ultraformer คือ เครื่องยกกระชับแบบ High Intentsity Focus Ultrasound ที่ใช้ในการยิงคลื่นอัลตราซาวด์ MMFU (Micro and Macro Focused Ultrasound) เข้าไปยังชั้นผิวหนัง SMAS (ชั้นผิวที่ใช้ในการผ่าตัดศัลยกรรม) ในพลังงานที่คงที่ เพื่อให้เกิดความร้อนที่ใต้ชั้นผิวหนัง และทำให้เกิดการกระตุ้นคอลลาเจน ส่งผลให้ผิวเกิดความกระชับ เต่งตึง ริ้วรอยลดเลือน และยังช่วยสลายไขมันที่ใต้ชั้นผิวได้ สามารถทำได้หลากหลายบริเวณ ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า ต้นแขน ต้นขา หรือหน้าท้อง โดยการทำ Ultraformer นั้นจะไม่ทำอันตรายต่อผิว มีความปลอดภัย ไม่ต้องทำการผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีแผล และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
2. Ultraformer มีหัวยิงกี่แบบ?
สำหรับขนาดหัวยิงของ Ultraformer ก็จะมีหลากหลายขนาด โดยแต่ละขนาดนั้นก็จะยิงเข้าสู่ชั้นผิวได้ในความลึกที่แตกต่างกัน จึงทำให้สามารถแก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุดมากขึ้น ซึ่งขนาดหัวยิงของ Ultraformer มีดังนี้
- ขนาด 1.5 – 2.0 MM เป็นขนาดหัวยิงที่ใช้กับผิวหนังชั้นบน ที่มีปัญหาผิวเป็นร่องลึกในระดับที่ไม่ลึกมาก เช่น หน้าผาก หว่างคิ้ว รอบดวงตา หางตา หรือร่องแก้ม เป็นต้น
- ขนาด 3.0 MM เป็นขนาดหัวยิงที่ใช้กับผิวหนังชั้นกลาง เพื่อทำการสลายไขมัน และเซลลูไลท์ พร้อมกับกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และช่วยลดความหย่อนคล้อยของผิว
- ขนาด 4.5 MM เป็นขนาดหัวยิงที่ใช้กับผิวหนังชั้น SMAS ที่ช่วยยกกระชับผิวบริเวณแก้ม เหนียง ลำคอ และปรับรูปหน้าให้มีความเรียวมากขึ้น
- ขนาด 6.0 MM เป็นขนาดหัวยิงที่ใช้กับผิวที่มีไขมันชั้นลึกโดยเฉพาะ เพื่อช่วยสลายไขมันในบริเวณต่างๆ และช่วยให้ผิวมีความกระชับ ไม่หย่อนคล้อย
- หัวยิงพิเศษ Limited Edition เป็นขนาดหัวยิงพิเศษที่ชื่อว่า “Cherry Pink” ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของสุดยอดเทคโนโลยี MF2 สามารถให้ความร้อนสะสมได้สูงถึง 8 เท่า ปล่อยพลังงานที่มีความเข้มข้น และเสถียร และเหมาะกับการใช้กับผิวที่มีความบอบบาง เช่น รอบดวงตา เป็นต้น
โดยที่ Ren Clinic มีขนาดหัวยิงครบทุกขนาด เพื่อช่วยแก้ปัญหาผิวของทุกคนได้อย่างตรงจุด เห็นผลลัพธ์จริง และมีประสิทธิภาพมากที่สุด สามารถติดต่อขอคำแนะนำ สอบถามโปรโมชั่น หรือจองคิวออนไลน์เข้ามาทำสวยกันได้เลยที่ Line Official : @renclinic
3. Ultraformer ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
การทำ Ultraformer เป็นหัตถการยกกระชับผิว ที่สามารถช่วยแก้ปัญหาผิวต่างๆ ได้ ดังนี้
- ช่วยยกกระชับผิวที่มีความหย่อนคล้อย
- ช่วยลดเรือนริ้วรอยร่องตื้น และร่องลึกให้ดูจางลง
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในใต้ชั้นผิว
- ช่วยปรับผิวให้มีความเต่งตึง และเรียบเนียน
- ช่วยยกกระชับผิวบริเวณรอบดวงตา
- ช่วยปรับรูปหน้าให้มีความเรียว และได้รูปมากขึ้น
- ช่วยลดปัญหาเหนียง หรือไขมันส่วนเกินบนใบหน้า
- ช่วยยกกระชับผิวลำคอให้มีความเต่งตึงมากขึ้น
- ช่วยยกกระชับ และสลายไขมันผิวส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น ต้นแขน ต้นขา หรือหน้าท้อง เป็นต้น
4. การทำ Ultraformer เหมาะกับใครบ้าง?
ถ้าหากใครกำลังมีปัญหาผิวไม่กระชับ หย่อนคล้อย หรือมีริ้วรอย และสนใจอยากจะแก้ปัญหาผิวด้วย Ultraformer ก็สามารถมาเช็คลิสต์ได้เลยว่าปัญหาที่ตัวเองกำลังเผชิญนั้นเหมาะกับการทำหัตถการยกกระชับผิวด้วย Ultraformer หรือไม่ ดังนี้
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยตามช่วงวัย
- ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึก และร่องตื้นตามช่วงวัย
- ผู้ที่มีปัญหาหนังตาตก หางตาตก หรือคิ้วตก
- ผู้ที่มีริ้วรอยบริเวณหน้าผาก หรือหว่างคิ้ว
- ผู้ที่มีปัญหาร่องแก้ม หรือมุมปากตก
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้มีความเรียวสวยเป็นธรรมชาติ
- ผู้ที่ต้องการสลายไขมัน และยกกระชับตามร่างกาย เช่น ต้นแขน ต้นขา หรือหน้าท้อง เป็นต้น
- ผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวแบบไม่ต้องทำการผ่าตัด
5. การทำ Ultraformer ไม่เหมาะกับใครบ้าง?
ถึงแม้ว่าการทำ Ultraformer จะเป็นหัตถการที่สามารถช่วยยกกระชับผิวได้ดี และสามารถแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างหลากหลาย แต่ว่าก็มีกลุ่มเสี่ยงที่ควรหลีกเลี่ยงการทำ Ultraformer ดังนี้
- ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์
- ผู้ที่มีระบบไหลเวียนเลือดผิดปกติ
- ผู้ที่มีการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
- ผู้ที่มีการฝังเครื่องกระตุ้นหัวใจ
- ผู้ที่มีความผิดปกติในการรับความรู้สึก
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ หรือโรคความดันโลหิต
- ผู้ที่เคยประสบอุบัติเหตุที่รับการรักษาด้วยการฝังเหล็กในร่างกาย
- ผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อรุนแรงในบริเวณที่จะทำการรักษา
- ในกรณีที่ได้รับการผ่าตัดบริเวณใบหน้า ควรเว้นระยะอย่างน้อย 6 เดือน – 1 ปี
- ในกรณีได้รับการร้อยไหมชนิดละลาย ควรเว้นระยะอย่างน้อย 3 เดือน
6. ข้อดี-ข้อเสียของการทำ Ultraformer
ก่อนตัดสินใจทำหัตถการยกกระชับผิวอย่าง Ultraformer ควรทำการศึกษาก่อนว่ามีข้อดี และข้อเสียอย่างไรบ้าง เพื่อเป็นข้อมูลที่ช่วยประกอบการตัดสินใจว่าการทำ Ultraformer เหมาะสมกับปัญหาผิวของตัวเองหรือไม่ โดยข้อดี และข้อเสียของการทำ Ultraformer ที่ควรรู้ไว้ มีดังนี้
6.1 ข้อดีของการทำ Ultraformer
ข้อดีของการทำ Ultraformer ที่ควรรู้ไว้ก่อนตัดสินใจทำ มีดังนี้
- เห็นผลลัพธ์หลังทำได้ทันที 10-20% และเห็นผลลัพธ์เต็มที่ 1-2 เดือน
- มีความปลอดภัยสูง
- ไม่ต้องทำการผ่าตัด
- ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น
- ไม่มีรอยแผลหลังทำ
- ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-8 เดือน
- สามารถเลือกบริเวณที่ต้องการทำได้
- ไม่จำกัดว่าจะต้องทำทั่วทั้งหน้า หรือหลายจุดภายในครั้งเดียว
6.2 ข้อเสียของการทำ Ultraformer
ข้อเสียของการทำ Ultraformer ที่ควรรู้ไว้ก่อนตัดสินใจทำ มีดังนี้
- หากผิวมีความหย่อนคล้อยเยอะ อาจทำต่อเนื่องทุก 3 เดือน
- ผลลัพธ์ไม่ได้อยู่ถาวร และต้องกลับมาทำซ้ำทุกๆ ปี
7. การดูแลตัวเองก่อน-หลังการทำ Ultraformer
การดูแลตัวเองก่อน และหลังการทำ Ultraformer เป็นสิ่งที่ทุกคนควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะช่วยในเรื่องของผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพแล้วนั้นยังช่วยให้ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานมากขึ้นได้ ดังนั้น ในหัวข้อนี้ทาง Ren Clinic จะพาทุกคนมาเตรียมตัวให้พร้อม ด้วยวิธีการดูแลตัวเองก่อน และหลังทำ Ultraformer แบบง่ายๆ ดังนี้
7.1 การดูแลตัวเองก่อนเข้ารับการทำ Ultraformer
การดูแลตัวเองก่อนเข้ารับการทำ Ultraformer อย่างถูกต้อง สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ Ultraformer ให้ผลลัพธ์อยู่ได้อย่างยาวนานมากขึ้น โดยวิธีการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการทำ Ultraformer อย่างถูกวิธี มีดังนี้
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ประมาณ 6-8 ชั่วโมง ก่อนเข้ารับการทำหัตถการ
- หลีกเลี่ยงการสครับผิว ขัดผิว แว็กซ์ขน หรือโกนขนในบริเวณที่ต้องการทำหัตถการอย่างน้อย 3 วัน
- งดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA, BHA หรือกรดวิตามินเอ อย่างน้อย 3 วัน
- งดการสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้ารับการทำหัตถการอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
- งดการแต่งหน้าในวันที่เข้ารับการทำหัตถการ
7.2 การดูแลตัวเองหลังเข้ารับการทำ Ultraformer
การดูแลตัวเองหลังเข้ารับการทำ Ultraformer อย่างถูกต้อง สามารถช่วยลดโอกาสในการเกิดผลข้างเคียและยังช่วยผลลัพธ์ในการทำ Ultraformer มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย โดยวิธีการดูแลตัวเองหลังเข้ารับการทำ Ultraformer อย่างถูกวิธี มีดังนี้
- ทาครีมบำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอ
- ทาครีมกันแดดที่มี SPF 50 ขึ้นไป เป็นประจำทุกวัน
- ทำความสะอาดผิวหน้าด้วยน้ำเปล่าที่มีอุณหภูมิปกติ
- ดื่มน้ำเปล่าให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
- หลีกเลี่ยงการสัมผัส ถู หรือนวดที่ผิวบริเวณใบหน้าอย่างรุนแรง
- หลีกเลี่ยงการเจอแสงแดด หรืออยู่กลางแจ้งที่มีแดดร้อนจัด
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์
- งดทำการเลเซอร์ ทรีทเม้นท์ หรือหัตถการที่ทำให้ผิวเกิดความร้อน หรือถ้าหากมีความจำเป็นต้องทำควรเว้นระยะอย่างน้อย 1 เดือน
- ในกรณีที่รู้สึกปวด เมื่อย หรือตึงผิวในบริเวณที่ทำหัตถการ สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้
8. Ultraformer VS Ulthera VS Hifu แตกต่างกันอย่างไร?
สำหรับผู้ที่สนใจอยากทำ Ultraformer และกำลังศึกษาหาข้อมูล แต่เจอกับ Ulthera และ Hifu จนเกิดความสงสัยว่า Ultraformer, Ulthera และ Hifu มีความแตกต่างกันอย่างไร ดังนั้น ในหัวข้อนี้ทาง Ren Clinic จะมาไขข้อสงสัยให้กับทุกคนว่าหัตถการแต่ละแบบนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ดังนี้
- Ulthera เป็นหัตถการยกกระชับที่ใช้พลังงาน High Intensity Ultrasound ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 1 มิลลิเมตร สามารถดูระดับความลึกของจุดที่ยิงได้ มีความแม่นยำสูง ถึงจะเป็นพลังงานเดียวกัน แต่มีพลังงานสูงกว่า Ultraformer 2 เท่า และผลลัพธ์จะอยู่ได้นานถึง 8-12 เดือน แต่จะมีราคาสูงกว่า และถึงแม้จะแปะยาชาแล้วก็ยังคงรู้สึกเจ็บมากกว่า
- Hifu เป็นหัตถการยกกระชับที่ใช้พลังงาน High Intensity Ultrasound ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 0.3-0.5 มิลลิเมตร สามารถช่วยยกกระชับผิวได้ แต่จะเห็นผลค่อนข้างช้า เพราะไม่สามารถยิงพลังงานในความถี่สูงได้อย่างเต็มที่ และถ้าหากยิงในพลังงานสูงอาจทำให้พลังงานไม่สม่ำเสมอ และอาจเกิดผลข้างเคียงต่างๆ ตามมาได้ ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 5-6 เดือน แต่มีข้อดีตรงที่ราคาไม่แพง จึงสามารถทำได้บ่อยๆ ทุกๆ 6 เดือน
ดังนั้น ผู้ที่สนใจอยากจะทำหัตถการยกกระชับผิวที่มีงบประมาณปานกลาง และอยากได้ผลลัพธ์ที่มีความชัดเจน การเลือกทำ Ultraformer ก็ถือว่าสามารถตอบโจทย์ได้ดีเลยทีเดียว
9. Ultraformer สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้หรือไม่?
การทำ Ultraformer เป็นหัตถการที่สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นๆ ได้ อย่างเช่น การฉีดโบท็อกซ์ การฉีดฟิลเลอร์ การฉีด Fat หรือการฉีดงานผิวอื่นๆ แต่ว่าจะต้องเริ่มจากการทำหัตถการ Ultraformer ก่อนเสมอ เพราะ Ultraformer เป็นหัตถการที่จะปล่อยคลื่นพลังงานลงสู่ชั้นผิว ที่ทำให้ผิวเกิดความร้อน ถ้าหากฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ หรืองานผิวต่างๆ อาจทำให้หัตถการฉีดนั้นเห็นผลลัพธ์น้อยลง หรือไม่มีประสิทธิภาพ และในกรณีที่เป็นหัตถการเลเซอร์ หรือหัตถการที่ทำให้เกิดความร้อนใต้ผิวเหมือนกับ Ultraformer ควรหลีกเลี่ยง หรือเว้นระยะในการทำ เพราะอาจทำให้ผิวเกิดความร้อนมากเกินไป ระคายเคือง ผิวแดง หรือมีผลข้างเคียงต่างๆ ตามมาได้ ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจในการทำ Ultraformer ร่วมกับหัตถการอื่นๆ ควรทำการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอีกครั้ง เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพมากที่สุด สามารถติดต่อสอบถามเข้ามาได้เลยที่ Line Official : @renclinic หรือ Facebook : Ren Clinic ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
10. เลือกทำ Ultraformer ที่ Ren Clinic ดีกว่ายังไง?
“Ren Clinic” เป็น 1 คลินิกที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการปรับรูปหน้า ที่ได้รับความไว้วางใจจากเหล่าอินฟลูอินเซอร์ ดารา และคนดังอย่างมากมาย เพราะว่าที่ Ren Clinic มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำที่ช่วยให้คนไข้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด และทำหัตถการโดยแพทย์ทุกเคส รวมถึงเครื่องมือทุกชิ้นมีความสะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน และเป็นของแท้ 100% จึงสามารถมั่นใจได้ว่าทุกหัตถการที่ทำนั้นมีความปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน มีให้เลือกเข้ารับบริการ 2 สาขา ได้แก่ สาขาสุขุมวิท และสาขาราชพฤกษ์ ให้คนไข้ได้เลือกใช้บริการได้ตามสะดวก และไม่เพียงเท่านั้น การทำ Ultraformer ของทาง Ren Clinic ยังมาพร้อมกับการการันตีด้วยรางวัลต่างๆ ที่เห็นถึงความไว้วางใจของคนไข้ทุกเคส ดังนี้
- Top Thailand By Product 2023 รางวัลยอดใช้หัว Ultraformer สูงสุดอันดับ 1 ในประเทศไทย 2023
- Platinum Shining Star 2022 รางวัลยอดใช้หัว Ultraformer สูงสุด 1 ใน 3 ของประเทศไทย 2022
- New Shining Star 2021-2022 รางวัลยอดใช้หัว Ultraformer สูงสุดในประเทศไทยปี 2021-2022
ดังนั้น ใครที่กำลังมองหาคลินิกยกระชับผิวด้วย Ultraformer ที่สามารถเดินทางสะดวก มีที่จอดรถ ราคาเข้าถึงง่าย คลินิกสะอาด ปลอดภัย ใช้เครื่องมือของแท้ และทำหัตถการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกเคส สามารถจองคิวเข้ามาทำสวย หรือปรึกษาได้เลยที่ Line Official : @renclinic หรือ Facebook : Ren Clinic ได้เลย มีโปรโมชั่นดีๆ รอทุกคนอยู่ตลอดทุกเดือน
11. รีวิวหลังทำ Ultraformer ที่ Ren Clinic
12. Q&A คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Ultraformer
สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะยกกระชับผิวด้วย Ultraformer แต่มีข้อสงสัยต่างๆ เกี่ยวกับการทำ Ultraformer เช่น ทำ Ultraformer เจ็บไหม กี่วันถึงเห็นผล หรือจะรู้ได้ยังไงว่าต้องใช้กี่ช็อต ดังนั้น ในหัวข้อนี้ทาง Ren Clinic ก็จะมาไขทุกข้อสงสัย ด้วยการรวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Ultraformer มาให้ทุกคนแล้ว ดังนี้
12.1 ทำ Ultraformer เจ็บไหม?
การทำ Ultraformer เป็นหัตถการที่จะทำการปล่อยพลังงานลงไปในชั้นผิว อาจทำให้รู้สึกได้ถึงความอุ่น หรือร้อนเล็กน้อย รวมถึงอาจจะรู้สึกถึงความเจ็บจี๊้ดๆ บริเวณชั้นผิว แต่ว่าอาการดังกล่าวนั้นจะไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน และมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก และในบางคนก็จะไม่รู้สึกเจ็บเลย เพราะว่าก่อนทำหัตถการนั้นจะมีการแปะยาชาที่ช่วยลดความเจ็บในระหว่างการทำหัตถการได้
12.2 ทำ Ultraformer กี่วันถึงเห็นผล?
การทำ Ultraformer สามารถเห็นผลลัพธ์หลังทำได้ทันทีประมาณ 10-20 % และจะค่อยเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนมากขึ้นประมาณ 1-2 เดือนขึ้นไป และผลลัพธ์ที่ได้นั้นจะอยู่ได้นานประมาณ 6-8 เดือน และหลังจากนั้นผิวก็จะค่อยๆ คลายกลับมา แต่จะไม่หย่อนคล้อยเหมือนก่อนทำ เพราะผิวมีการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนแล้ว และช่วยชะลอผิวให้แก่ช้าลงด้วย
12.3 ทำ Ultraformer ต้องใช้กี่ช็อต?
ส่วนใหญ่การทำ Ultraformer ในบริเวณทั่วหน้าจะอยู่ที่ประมาณ 400-500 ช็อต ทั้งนี้ จะต้องใช้จำนวนกี่ช็อตนั้นขึ้นอยู่กับบริเวณที่ต้องการทำการรักษา และขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลด้วย เช่น ปริมาณไขมันใต้ชั้นผิว ความหย่อนคล้อยของผิว ริ้วรอย หรือปัญหาผิวต่างๆ ดังนั้น จึงควรทำการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญถึงปริมาณช็อตที่มีความเหมาะสม เพื่อให้ผลลัพธ์ในการรักษามีประสิทธิภาพ และเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน
12.4 ทำ Ultraformer ราคาเท่าไหร่?
สำหรับการทำ Ultraformer ที่ Ren Clinic นั้นจะมีให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ Ultraformer III เริ่มต้นที่ 300 ช็อต 7,990 บาท และ Ultraformer MPT เริ่มต้นที่ 300 ช็อต 15,000 บาท ทั้งนี้ ในแต่ละช่วงจะมีการปรับเปลี่ยนโปรโมชั่น และของแถม สามารถติดตามโปรโมชั่น หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line Official : @renclinic หรือ Facebook : Ren Clinic
12.5 ทำ Ultraformer มีผลข้างเคียงไหม?
หลังเข้ารับการทำ Ultraformer อาจมีผลข้างเคียงอย่างอาการบวม หรืออาการผิวแดงได้ ซึ่งเป็นอาการปกติที่สามารถพบได้ แต่อาจจะไม่เป็นทุกคน และอาการดังกล่าวก็จะค่อยๆ หายเองได้ภายใน 1-3 วัน แต่ถ้าหากมีอาการบวม หรือช้ำมากกว่าปกติ และเป็นมากกว่า 1 อาทิตย์ ควรทำการพบแพทย์ เพื่อเข้ารับคำแนะนำ และทำการรักษาอย่างถูกต้อง
